Posts

ไดอารี่ จากชายหนุ่ม …สู่ภิกษุ ตอนที่๕ : สถานการณ์ไม่ปกติ

Image
หลังจากหายไปนาน... (มากส์) ทั้งในที่จริงเราก็ไม่ค่อยได้เข้ามาเขียน มากมายซักเท่าไหร่ เพราะมัวแต่ง่วนอยู่กับ หน้างานที่ต้องเจอทั้ง หนังสือมากมายที่เราต้องอ่าน เพื่อเรียน รวมไปถึง การที่เราต้องริเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ   ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยาก และเราก็ไม่เคยเจอมาก่อน จนตอนนี้เรารู้สึกเหมือนกับว่า  อยากจะแยกร่าง ออกเป็น 2 - 3 คนในเวลานี้เลยทีเดียว จึงเริ่มพอเข้าใจสิ่งที่ครูบาอาจารย์สอนเราเลยว่า การเกิดของพวกเราเป็นการยาก แต่การดำรงอยู่อย่างผู้ชนะนั้นยากกว่า.... ใช่การดำรงอยู่อย่าง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทรงสร้างบารมีตลอด หลังจากท่านตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญู ท่านใช้เวลาตลอด 45 ปี เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่พระพุทธศาสนาให้ตกมาสู่เรา ซึ่งเป็น 45 พรรษา ที่ไม่มีการหยุดพักผ่อนเลย ครูบาอาจารย์ของหลวงพี่จึงบอกว่า ควรเอาแบบอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในการสร้างบารมี แม้จะไม่ได้เท่าท่าน แต่ก็ขอเอาท่านเป็นแบบอย่าง ให้ดีที่สุด เข้าเรื่องดีกว่า ช่วงนี้ สถานการณ์ การบ้านการเมือง ก็ไม่ค่อยจะปกติ อันที่จริงพระอย่างเรา ๆ ก็ไม่ค่อยที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่หลวงพี่เห็นแล้ว อดไม

ไดอารี่ จากชายหนุ่ม …สู่ภิกษุ ตอนที่๔ : น้ำท่วม!!!

Image
หลังจากผ่านวันกฐินที่ผ่านมา....(เขียนเมื่อวันที่ ๖ พย. ๕๔) อายุพรรษาของ ภิกษุ ก็ก้าวมาสู่พรรษาที่สองแล้ว รู้สึกเหมือนเวลา ผ่านไปรวดเร็วเหมือนกัน ตัวเราเองก็วัน ๆ ก็อยู่กับวัด แต่ก็รู้สึกว่าโลกภายนอกได้ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายทีเดียว (นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่ได้ อัพบล็อคด้วยรึเปล่า) แต่สุดท้ายก็มีเหตุการณ์ ที่ทำให้ได้ต้องมานั่งเรียบเรียง เพื่อที่จะถ่ายทอดสิ่งที่อยากจะพูดอยู่นิดหน่อย หลังจากที่ทุกคนก็ทราบกันดีว่าในขณะนี้ ประเทศของเราก็ได้เผชิญกับ ปลาวาฬมวลน้ำขนาดยักษ์ ถาโถมพยายามจะลงทะเล โดยผ่านภาคกลางของเรา ทำให้วัด อาตมา กลายเป็นเกาะ ลอยตุ๊บป่อง ๆ อยู่กลางน้ำ อยู่ในขณะนี้ กลายเป็น วัดวิวทะเลสาบโดยที่ไม่ต้องทำสระเพิ่มกันเลยทีเดียว... แต่สิ่งที่หลวงพี่สังเกตุเห็น และได้เรียนรู้จาก มหาอุทกภัยในครั้งนี้ กลับไม่ใช่แค่น้ำท่วมอย่างเดียว.... หลวงพี่ได้เห็น ประเทศเรากลับมีอีกสิ่งหนึ่งที่ท่วม เข้ามาในชีวิตอย่างไม่คาดคิด คืออะไรหน่ะเหรอ มันคือสิ่งที่เรียกว่า  "ข่าวสาร" ยังไงหล่ะ หลวงพี่คงไม่ลงในรายละเอียดหรอกนะ  เพราะมันไม่ใช่ประเด็นที่อยากคุยเท่าไหร่  แต่สิ่งที่เห็นเต็ม T

ไดอารี่ จากชายหนุ่ม …สู่ภิกษุ Live!! : งานกฐินวัด.

วันนี้เป็นวันที่ค่อนข้างพิเศษหน่อย เพราะเป็นงานทอดกฐินในวัดที่อาตมาอยู่ งานกฐิน ถือว่าเป็นพิธีที่สำคัญที่เกิดตั้งแต่สมัยพุทธกาล ในสมัยพุทธกาล มีพระสามสิบรูปกำลังที่จะไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ที่ วัดเชตุพนมหาวิหาร เมืองสาวัตถี แต่ติดเข้าพรรษาซะก่อน ก็เลยต้องจำพรรษาที่เมือง ก่อน พอเข้าเฝ้า นางวิสาขา บังเอิญไปเห็น จีวรที่สกปรก ก็เลยกราบทูลขอถวายผ้าผืนใหม่แก่ พระภิกษุเหล่านั้น ซึ่งพระศาสดาก็ทรงอนุญาตให้ถวายได้ จึงเกิดการให้ผ้ากฐินนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และการให้ทานกฐินถือเป็นการให้ทานที่มีอานิสงส์มากกว่าการให้ทานแบบธรรมดา เพราะเป็นการให้ที่มีแบบเฉพาะเจาะจงมากกว่าการให้ทานแบบอื่น ๆ เพราะต้องถึงพร้อมด้วย ภิกษุสงฆ์ 5 รูปที่อยู่ในอาวาสนั้น กำหนดเวลาให้ทานเพียงแค่ 1 เดือนนับจากวันออกพรรษา รับได้ปีละครั้งเท่านั้น เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นการให้ทานที่มีผลมากทีเดียว ถ้าใครยังไม่ได้ไปกฐินที่ไหน ก็ขอให้ไปวัดใกล้บ้านก็แล้วกันนะ ^   ^ ps. พิธีคนครึกครื้นดี แต่ก็เรียบง่ายสไตล์ชนบท ก็สบาย ๆ ไปอีกแบบ และหลวงพี่ก็เอาบุญมาฝากคนอ่านทุกคนด้วยเน้อ...

ไดอารี่ จากชายหนุ่ม …สู่ภิกษุ ตอนที่๓ : วิถีชีวิต

Image
หลังจากที่บวชมาแล้วซักพัก.... ทำให้รู้ว่าการที่เราเข้ามาบวชในเพศ สมณะ นี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว  ถ้าใครเคยได้ยินคำโบราณที่บอกว่า "สบายอย่างพระ" แล้วหล่ะก็ขอบอกคำเดียวว่าเถียงขาดใจ เพราะตั้งแต่บวชมาก็แทบไม่ได้หยุดหย่อนในการฝึกฝน อบรมตนเองเลย การถือครองเพศบรรชิตนี้ ถึงแม้จะไม่ได้ออกไปทำมาหากินอะไร แต่กลับกันความเพียรพยายามต้องกวดขันขึ้น กับการที่อยู่กับตนเอง การฝึกตน ทั้งในทางด้านเสขิยวัตร(กาย) และสมณธรรม(ใจ) รวมไปถึง กรอบที่ต้องอยู่กับพระธรรมวินัย ...ศีล 227 ข้อ ที่ต้องระวังในทุกก้าวย่างของการ ยืน, เดิน, นั่ง, นอน และต้องต่อสู้กับสิ่งที่เรียกว่า "ความอยาก" ของตนเอง ทำให้รู้เลยว่า บางทีอยู่ในทางโลกมา เรื่องก็มากแล้ว แต่ส่วนมากมักจะอยู่นอกตน แต่พออยู่นิ่ง ๆ ในเพศสมณะ กลับมีเรื่องเข้ามามากกว่าตอนที่อยู่ทางโลกซะอีก (ซึ่งส่วนใหญ่ก็เกิดจากกิเลสของตนนี่แหละ - -) นั่งอ่านหนังสือเลยเปิดไปเจอข้อความบทหนึ่ง ซึ่งตรงใจก็เลยเอามาให้อ่านกัน เป็นบทประพันธ์ของ ขงเบ้ง ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองและการศึกษาไว้ว่า "จริยวัตรแห่งวิญญูชน สงบจิตเพื่อฝึกฝนอบรมตน สะ

ไดอารี่ จากชายหนุ่ม …สู่ภิกษุ ตอนที่๒: เปลี่ยน

สองสามวันต่อมา..... หลังจาก ความปิติในจิตใจที่ได้ผ่าน พิธีอุปสมบท ก็เริ่มจะเลือนหายไปพร้อมกับ การเริ่มต้นของการใช้ชีวิตอยู่ของสมณะเพศ ความล้าของการฝึกฝนตนเองในขณะที่ต้องประกอบพิธีบวชอันยุ่งยาก,  มากมาย และเข้าใจยากว่า ทำไม???  การบวชเป็นพระในพระพุทธศาสนาจึงต้องเข้มงวด กับเรื่องบางเรื่องมากถึงเพียงนี้  ในเรื่องทรงผม หรือเครื่องแต่งตัว ส่วนนี้เราก็ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ เพราะก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ว่าพระเป็นแบบนี้ ซึ่งก็คือ ไม่มีผม(ไม่เปลืองแชมพู..) ใส่ผ้าแค่สามผืน ดังคำโบราณที่ว่า "ไตรจีวร" อันที่จริงคนเราเข้าใจผิด กันไปเยอะนะ (รวมทั้งตัวเอง) ว่าอันที่จริง จีวร ดันเป็นคำที่ใช้เรียกผ้า แบบทั่ว ๆ ไป ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นผ้านุ่งห่ม เหมือนที่เราเข้าใจแต่ก่อน ส่วนผ้าห่ม จริง ๆ เราใช้คำว่า อุตราสงค์ แทน (แทบไม่เคยได้ยิน เหอๆๆ ) ก็เลยไปดูความหมายจริง ๆ ของไตรจีวร มีอยู่ 3 ผืน คือ อุตราสงค์ คือ จีวรที่ใช้ห่มกาย อันตรวาสก คือ สบงที่ใช้นุ่ง สังฆาฎิ คือ ผ้าพาดเฉวียงบ่าที่ใช้ในพิธีกรรม(แต่เมื่อก่อนใช้เป็นผ้าซ้อน ...) (ที่มา : Wikipedia ) ถึงแม้จะงง กับชื่อเรียกแล้ว ก็ย

ไดอารี่ จากชายหนุ่ม ...สู่ภิกษุ ตอนที่๑ : เริ่มต้น

Image
ในช่วงบ่ายของวันที่ ๗ มิถุนายน พศ. ๒๕๕๓ และแล้วก็ถึงวันอุปสมบท... วันนี้เป็นวันที่ต้องตื่นตอนเช้าเพื่อที่จะได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดกล้าชอุ่ม จ.ปทุมธานี ต้องนั่งรถบัสโดยสารออกไปจากวัดที่เราอยู่ ซักประมาณไม่ถึง 15 นาที ซึ่งต้องอุปสมบทกันทั้งหมด 60 กว่ารูป .. กว่าจะได้อุปสมบทจริง ๆ ก็ช่วงบ่าย รู้สึกว่าใจสงบ ๆ พิกล ในใจก็เลยคิดว่า "นี่สินะ ที่เราจะได้กลายเป็นพระสงฆ์อย่างแท้จริงซะที กับฉายานี้ ยติคุโณ อันแปลว่า พระแท้ หรือ ผู้มีคุณเยี่ยงพระ นั่นเอง ก็เลยทำให้นึกถึงคำ ๆ นึงขึ้นมา "With great power comes great responsibility." ความสามารถที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง (จากหนังเรื่อง Spiderman นั่นเอง ) เอาล่ะวันนี้เป็นพระแล้ว จะลุยได้มากน้อยแค่ไหนค่อยมาดูละกัน สู้ เว้ย!!!

ฉบับที่สอง(อันยาวนาน): การเดินทางสู่ “Capital”ism

สวัสดีครับทุกท่าน … หลังจากเริ่มต้นเขียน Blog ตั้งแต่เดือนกันยายน ตัวกระผมเองก็หายไปร่วม สองเดือน! เนื่องจาก(แถลงการณ์แถ แบบสุด ๆ)ผมต้องลงไปทำธุระ ที่ กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของเรานั่นเอง และก็ได้เดินทางขึ้นลง ๆ จาก กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ เป็นว่าเล่น ทำให้เวลาในการ อัพบล็อคของกระผม ก็ต้องขาดช่วงไปนานมาก… (เป็นคำแก้ตัวที่แย่ที่สุดในประเทศ!!) แต่ก็นั่นแหละครับ การที่ได้เดินทาง บางทีมันก็มีประสบการณ์ให้เก็บมาคิดอยู่เสมอ เอาล่ะครับ ลองมาเดินทางตามความคิดของผมกันดีกว่า Let’s Rock! เรื่องนี้เป็น สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะผมกำลังขับรถ ซึ่งเป็นช่วงเวลากลางคืน ตอนที่ผมขับรถไปเรื่อย ๆ ประกอบกับ ช่วงนั้นถนนโล่ง ๆ ไม่มีแสงไฟข้างทางเพราะกำลังอยู่บนภูเขา ก็ทำให้ผมมานั่งนึกว่า เอ… อันที่จริง เคยมีคำกล่าวในสมัยโบราณ บอกไว้ว่า.. “เดินเรือต้องมีเข็มทิศ ดำเนินชีวิตต้องมีจุดหมาย” ซึ่งผมก็เลยเหมารวมเอาว่า อันที่จริงการตั้งเป้าหมายในชีวิตมันก็คล้ายกับ การตั้งเป้าหมายในการที่เราจะเดินทางไปที่ไหนซักที่นี่หว่า และคนส่วนใหญ่ ก็ถึงสถานที่ที่เราจะไปด้วย แต่ทำไมในชีวิตจริงมันไม่เหมือนกับการเดินทางเลยหล่ะ ??? นั่