ไดอารี่ จากชายหนุ่ม …สู่ภิกษุ ตอนที่๔ : น้ำท่วม!!!

หลังจากผ่านวันกฐินที่ผ่านมา....(เขียนเมื่อวันที่ ๖ พย. ๕๔) อายุพรรษาของ ภิกษุ ก็ก้าวมาสู่พรรษาที่สองแล้ว รู้สึกเหมือนเวลา ผ่านไปรวดเร็วเหมือนกัน ตัวเราเองก็วัน ๆ ก็อยู่กับวัด แต่ก็รู้สึกว่าโลกภายนอกได้ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายทีเดียว (นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่ได้ อัพบล็อคด้วยรึเปล่า) แต่สุดท้ายก็มีเหตุการณ์ ที่ทำให้ได้ต้องมานั่งเรียบเรียง เพื่อที่จะถ่ายทอดสิ่งที่อยากจะพูดอยู่นิดหน่อย

หลังจากที่ทุกคนก็ทราบกันดีว่าในขณะนี้ ประเทศของเราก็ได้เผชิญกับ ปลาวาฬมวลน้ำขนาดยักษ์ ถาโถมพยายามจะลงทะเล โดยผ่านภาคกลางของเรา ทำให้วัด อาตมา กลายเป็นเกาะ ลอยตุ๊บป่อง ๆ อยู่กลางน้ำ อยู่ในขณะนี้ กลายเป็น วัดวิวทะเลสาบโดยที่ไม่ต้องทำสระเพิ่มกันเลยทีเดียว...


แต่สิ่งที่หลวงพี่สังเกตุเห็น และได้เรียนรู้จาก มหาอุทกภัยในครั้งนี้ กลับไม่ใช่แค่น้ำท่วมอย่างเดียว.... หลวงพี่ได้เห็น ประเทศเรากลับมีอีกสิ่งหนึ่งที่ท่วม เข้ามาในชีวิตอย่างไม่คาดคิด

คืออะไรหน่ะเหรอ มันคือสิ่งที่เรียกว่า "ข่าวสาร" ยังไงหล่ะ หลวงพี่คงไม่ลงในรายละเอียดหรอกนะ  เพราะมันไม่ใช่ประเด็นที่อยากคุยเท่าไหร่  แต่สิ่งที่เห็นเต็ม Timeline facebook หรือ twitter คือความบิดเบี้ยว เฉโก ของความคิด ที่ต่างตั้งอยู่ในความอคติ ของแต่ละบุคคล

หลวงพี่ไม่ได้ ห้ามให้ทุก ๆ คนเลือกฝ่ายหรอกนะ การเลือกฝ่ายก็หมายถึงว่าเราชอบ และมองเห็นข้อดีของ คน หรือ สิ่งนั้น ๆ ว่ามีคุณค่า แต่กลับกลายเป็นว่า สิ่งที่เห็นเต็มไปหมดก็คือ การที่เราเลือกฝ่ายแล้วดันไปตัดสิน คนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามว่าไม่ดีโดยที่ไม่ดูเหตุผล ไม่ดูที่มาเหมือนที่เค้าเรียกว่า "ตามน้ำ" นั่นแหละ ซึ่งมันแสดงถึง "ความไม่ใส่ใจ" "ไม่รับผิดชอบ" และ "สติ" ของคนในยุคปัจจุบันได้อย่างดีทีเดียว บางทีเราต้องหันกลับมามองตัวเองนะว่า การที่เราด่าว่าอะไรเค้าออกไป หนึ่งนิ้วที่ชี้ไป แต่ยังมีอีก อย่างน้อย 3 นิ้วที่ชี้เข้ามาหาเรานะ เหมือนสุภาษิตโบราณคือ  ...ว่าแต่เขา อีเหนาเป็นเอง นั่นเอง

ซึ่งสิ่งที่หลวงพี่ออกมาเขียนนี้ก็เพื่อจะเป็นการเตือนสติ ของคนที่จะพูด, Post, Share อะไรออกไปอยากให้มีสติมากกว่านี้หน่อย เช่น ตรวจสอบข่าวลือให้แน่นอนก่อน ค่อยทำออกไปจะดีมาก เพราะถือเป็นการสร้างวัฒนธรรมที่ดี ๆ ของตัวเราเองไม่ให้เป็นคนหูเบาได้อย่างดีเยี่ยม

หรือไม่งั้นก็หันจากการวิจารณ์ มาเป็นออกไปทำอะไรให้เป็นประโยชน์ หรือลงมือทำอะไรเพื่อให้ตัวเอง และสังคมดีขึ้ไปเลยดีกว่า เพราะมันสนุกกว่าการเป็นนักเลงคีย์บอร์ดเยอะเลย เชื่อหลวงพี่สิ ...(ได้บุญด้วยนะ ^ ^)

พูดมาซะยาวเอาเป็นว่าสุดท้ายก็เลยอยากเอาบุญมาฝากทุกท่านด้วยนะ หลวงพี่ได้ไปทำอะไรเยอะแยะเลยช่วงน้ำท่วม ไว้ค่อยมาเล่าทีหลังดีกว่า...

ขอบคุณที่อ่านอย่างครบถ้วน และมีสติ
Zarumen : ยติคุโณ ภิกขุ

Comments

Popular posts from this blog

ไดอารี่ จากชายหนุ่ม …สู่ภิกษุ Live!! : งานกฐินวัด.

ไดอารี่ จากชายหนุ่ม …สู่ภิกษุ ตอนที่๓ : วิถีชีวิต